นนี่คือเรื่องของ “พลังงาน” ล้วน ๆ ระหว่างเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นพลังงานที่ขับเคลื่อน “โลกเก่า” กับพลังงานหมุนเวียนที่คาดการณ์ว่าจะมารับช่วงต่อเพื่อขับเคลื่อน “โลกใหม่”
แน่นอนอยู่แล้วว่าพลังงานหมุนเวียนมาแรงแซงโค้งเข้าวินชนะใส ๆ ยิ่งประกอบกับกระแสลดโลกร้อนที่โหมกระหน่ำในปัจจุบัน และองค์การสหประชาชาติก็กำหนดเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดให้เป็น 1 ใน 17 เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
แต่…ต้องไม่ลืมว่า กระแสพลังงานสะอาดเพิ่งมา “สุกงอม” เอาช่วงประมาณไม่กี่ปีนี้เอง ก่อนหน้านั้น ชีวิตประจำวันเราลุ้นราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงกันสนุกทีเดียว
เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาตินั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2015 ความตกลงปารีส (Paris Agreement) เพื่อต่อสู้กับปัญหา climate change นั้นเพิ่งบังคับใช้ในปี 2016
จะเห็นได้ว่า มันใช้เวลาสักระยะหนึ่งทีเดียวกว่าทุกคนจะตระหนักว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง
และก็ไม่แน่ใจว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ข่าวภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในระยะหลัง ๆ นั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รุนแรงมากขึ้นและมาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งทุกครั้งจะโยงกลับไปถึงสภาวะโลกร้อนแทบทั้งสิ้น อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องไฟป่าที่ออสเตรเลีย
เป็นการตอกย้ำปัญหาโลกร้อนที่ทุกคนยอมรับอย่างจริงจังและ “ยอม” เปลี่ยน
ขึ้นชื่อว่า “มนุษย์” ย่อมไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา เราติดอยู่กับความเคยชิน แต่ในโลกทุนนิยมเราสามารถใช้ “ราคา” ช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนได้
ที่ผ่านมาราคาของเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นราคาที่ผู้คนเอื้อมถึงได้ และเทคโนโลยีนการผลิตพลังงานหมุนเวียนยังมีต้นทุนสูง ทำให้พลังงานสะอาดไม่เป็นที่นิยม
แต่มันเปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีล้ำหน้าไปมาก ต้นทุนการผลิตพลังงานหมุนเวียนลดต่ำลงมาอยู่ในสถานะที่แข่งขันกับเชื้อเพลิงฟอสซิลได้อย่างสูสี ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านสนามรบมามากพอสมควร เพราะบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหลายคอยหาวิธีขัดขวางการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา
ผลการศึกษาในปี 2018 จากวารสาร Climate Change ชี้ว่าในช่วงการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโอบามา ผู้สนับสนุนจากฝ่ายอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลใช้จ่ายงบประมาณมากกว่ากลุ่มจากพลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม เพื่อพยายามโน้มน้าวการออกกฎหมายเกี่ยวกับ climate change
ฝ่ายเชื้อเพลิงฟอสซิลพยายามทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในสงครามเป็นตายนี้
ถึงเทรนด์จะเอนเอียงมาทางฝั่งพลังงานหมุนเวียนยังไง ก็ต้องการนโยบายจากรัฐในการสนับสนุน รวมถึงเหล่าผู้บริโภคอย่างเราจะเลือกจ่ายเงินไปทางไหนเพื่อปิดสงครามครั้งนี้
อ้างอิง