DNV GL บริษัทจัดชั้นคลาสและให้คำปรึกษาชั้นนำร่วมกับ Scout Drone Inspection ได้ทดลองใช้ ‘โดรน’ เพื่อตรวจสอบสภาพส่วนถังบรรจุน้ำมันบนเรือผลิตและกักเก็บปิโตรเลียม (Floating Production, Storage and Offloading vessel-FSOV) ซึ่งผลปรากฏว่าโดรนทำงานได้ดีเยี่ยม และการทดสอบประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ

ปกติแล้วการตรวจสอบสภาพครั้งหนึ่งต้องใช้เวลานานหลายวัน กว่าจะรอให้อากาศถ่ายเทออกมาจะพื้นที่ตรวจ ไหนจะต้องตั้งนั่งร้านไว้ปีน เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบต้องปีนป่ายไปมาในพื้นที่ทำงานที่ยากลำบากแถมอันตราย ที่สำคัญลูกค้าสูญเสียรายได้เป็นเงินจำนวนมากเพราะเรือต้องจอดนิ่ง 

การใช้โดรนร่วมตรวจสภาพเป็นวิธีหนึ่งเพื่อลดต้นทุนด้านเวลาและการเงิน ทั้งยังลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ได้ด้วย

โดรนที่ใช้จะมีกล้องและอัลกอริทึ่มเพื่อการวิเคราะห์หาจุดแตกหรือจุดบกพร่องของโครงสร้าง ภาพจากโดรนจะถูกส่งไปที่ห้องทำงานของวิศวกรซึ่งจะคอยตรวจสอบแบบเรียลไทม์ และด้วยเทคโนโลยี LiDAR วิศวกรจะเห็นภาพด้านในที่โดรนบินสำรวจอยู่เป็นแบบ 3 มิติ ซึ่งได้ประมวลเอาทั้งภาพถ่ายและวิดีโอสร้างเป็นข้อมูลตำแหน่งพื้นที่ไว้อย่างแม่นยำ

ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้สำรวจหน้างานก็ไปทำงานยังจุดอื่นที่มีข้อจำกัดของโดรน นับเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคนและเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด

ณ ตอนนี้ยังมีความจำเป็นต้องใช้คนคอยบังคับโดรนอยู่ แต่ใครเลยจะรู้ว่าอีกไม่นานมันจะสามารถบินสำรวจได้ด้วยตัวของมันเอง พร้อมมีมันสมอง AI ที่วิเคราะห์และคำนวณเสร็จสรรพได้ทันที และอาจมีดวงตาที่สามารถมองทะลุทะลวงไปถึงพื้นผิวชั้นในของโครงสร้างที่คนไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่า

นี่ไม่ได้โม้เล่น ๆ นะ เพราะนั่นคือเป้าหมายสูงสุดที่แท้จริงของ DNV GL และทีมที่ร่วมพัฒนา

เทคโนโลยีอื่น เช่น พวกเซ็นเซอร์ที่จะไปติดไว้ตามพื้นที่ต่าง ๆ และเพิ่มกล้องสำรวจ ก็อยู่ในข่ายการพัฒนาเช่นเดียวกัน

อย่าตกใจไปล่ะ ถ้าอนาคตเราจะมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นหุ่นคอยเดินตามเราไปไหนมาไหนเหมือนเจ้า R2D2 ในหนังเรื่องสตาร์วอร์

อ้างอิง