เรือ MV NORD YILAN เดินทางออกจากท่าเรือ Benicia รัฐแคลิฟอร์เนียของประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงท่าเรือ Cua Ong เมือง Quang Ninh ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม พร้อมด้วยถ่านหินมากกว่า 21,700 ตัน ซึ่งนี่แค่ชุดแรกเท่านั้น

และจากรายงานของ Vietnam National Coal and Mineral Industries Holdings (Vinacomin) คาดว่าถ่านหินชุดที่สองจะเดินทางมาถึงราวเดือนกันยายนปีนี้

ถ่านหินล็อตนี้จะถูกใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นมากอันเนื่องมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันรวดเร็ว

เมื่อปีที่แล้ว เวียดนามมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 7% ซึ่งนับว่าเป็นอัตราการเติบโตที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ในสถานการณ์แบบนี้ กระทรวงอุตสหากรรมและการค้าเวียดนามได้ออกมาเตือนว่าอาจมีการขาดแคลนพลังงานในช่วงระหว่างปี 2021-2025 สาเหตุเพราะแผนการสร้างโรงไฟฟ้าล่าช้ากว่ากำหนด

แม้รัฐบาลจะมีแผนปรับไปพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น แต่จากสถิติของสมาคมพลังงานเวียดนามชี้ว่า ปีที่แล้วมีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหิน 36.1% ของกระแสไฟฟ้าทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ได้มีการวางแผนห้ามสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินอีกหลังปี 2030

ตามแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าแห่งชาติ ช่วงปี 2011-20 โรงผลิตไฟฟ้าต้องสามารถผลิตไฟฟ้ารวมให้ได้ถึง 75,000 MW ซึ่งคิดเป็นการผลิตจากถ่านหินถึงราว 48% และภายในปี 2030 ต้องผลิตไฟฟ้าให้ได้ 146,800 MW คิดเป็นการผลิตจากถ่านหิน 51.6%

นี่ยังไม่นับรวมความต้องการใช้งานถ่านหินในอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีก ซึ่งท้ายที่สุด รวม ๆ แล้วจะต้องใช้ถ่านหินมากถึง 157 ล้านตันเลยทีเดียว

อ้างอิง