ท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์ในวิกฤตโควิด-19 และสงครามราคาน้ำมันดุเดือด ว่ากันว่าธุรกิจบริการบ่อน้ำมัน (OFS) โดนผลกระทบหนักหนาสาหัสกว่าธุรกิจส่วนอื่น ๆ ของอุตสาหกรรมน้ำมันโลก 

1. 1. ไม่ว่าใช้มาตรวัดใด ๆ ก็ตาม สัดส่วนขนาดของธุรกิจ OFS เล็กกว่าธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันมาก แต่กลับมีต้นทุนการลงทุนสูงกว่า
   2. ด้วยต้นทุนธุรกิจที่สูง ดังนั้นจึงอ่อนไหวเป็นอย่างมากต่อผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงของวงรอบปกติและความผันผวนของอุตสาหกรรมน้ำมัน
   3. มีเพียงบริษัทขนาดใหญ่ในธุรกิจ OFS ที่ยังคงมีกระแสเงินสดและผลตอบแทนการลงทุนที่ดีอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับวงรอบปกติของอุตสาหกรรมน้ำมัน
   4. เป็นเรื่องปกติในวงการธุรกิจ OFS ที่บริษัทที่ส่วนแบ่งการตลาดเยอะมีผลประกอบการที่ดีกว่าบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดน้อย
   5. มูลค่าทางการตลาดของบริษัทในธุรกิจ OFS ลดลงแล้วเกือบครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2020
   6. บริษัท OFS ที่ให้บริการงานด้านวิศวกรรม จัดซื้อ ก่อสร้าง และติดตั้ง ได้รับผลกระทบน้อยนิดที่สุด โดยสูญเสียมูลค่าการตลาดไปเพียง 27% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 39-45% ของบริษัท OFS อื่น
   7. บริษัทผู้ให้บริการด้านงานขุดเจาะนอกชายฝั่งดำดิ่งหัวทิ่ม เพราะสูญเสียมูลค่าตลาดไปราว 80%
   8. ราคาหุ้นของบริษัทที่จ่ายเงินปันผลเป็นประจำลดลงน้อยกว่าราคาหุ้นของบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล
   9. บริษัท OFS เลือกใช้วิธีการซื้อหุ้นคืนเพื่อพยุงราคาหุ้นของบริษัท เว้นแต่เพียงบริษัทด้านขุดเจาะนอกชายฝั่งที่ต้องเลือกว่าจะปรับโครงสร้างการเงินของบริษัทอย่างไรดี
   10. จากวิกฤตที่เผชิญนี้ เป็นไปได้ว่าอาจมีหลายบริษัทงดเว้นการจ่ายเงินปันผล
   11. คาดว่าวิกฤตครั้งนี้จะเป็นการปรับโครงสร้างการเงินและควบรวมงานบางส่วนของแต่ละบริษัทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับขนาดขององค์กร 
   12. แนวโน้มวันข้างหน้า วงการธุรกิจ OFS ต้องการผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพื่อขจัดแรงกดดันจากการแข่งขันในระยะยาว
   13. ทางรอดที่ยั่งยืนของบริษัทใหม่คือทำโครงสร้างบริหารจัดการต้นทุนที่ยอดเยี่ยม

อ้างอิง