The Viking LifeCraft System

พบกับ “เเพช่วยชีวิต” เวอร์ชั่นไฮบริด ที่มาพร้อมกับชุดขับเคลื่อนใบจักร Azimuth พลังงานไฟฟ้า เเละ ระบบเก็บข้อมูลอัจฉริยะ ที่จะพลิกโฉมเรือบดเเละเเพช่วยชีวิตเเบบเดิมไปตลอดกาล

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
สัญญาณฉุกเฉินสั้น 7 ครั้งยาว 1 ครั้งสำหรับสถาณีเรือช่วยชีวิต ทุกคนประจำที่ “เรือบด”
เเต่ถ้าหากต่อไปจะบอกว่าให้ไปประจำที่ LifeCraft ล่ะ!

LifeCraft คือ เเพช่วยชีวิตเวอร์ชั่นไฮบริดเเบบใหม่ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนผสมเเบบใหม่ที่ไฮเทคกว่าเดิม

ข้อดีของเจ้าระบบ LifeCraft นี้คือมีน้ำหนักเบาสามารถลด Load บน Deck ที่ติดตั้ง เมื่อเที่ยบกับเรือช่วยชีวิตทั่วไป รวมทั้งไม่ต้องห้อยด้วยสลิง

ทั้งระบบจะบรรจุมาในรูปแบบของกล่องขนาดใหญ่ 1 ยูนิต ติดตั้งอยู่บน Deck ข้างเรือ มีระบบเก็บสำรองพลังงานสำหรับใช้ในการปล่อยเเละยังสามารถใช้พลังงานจาก Emergency Generator ได้

ซึ่งภายในประกอบไปด้วย เเพช่วยชีวิตเเบบพองลมได้ (Inflatable LifeCraft) 4 ตัว เเต่ละตัวบรรทุกผู้โดยสารได้ 203 คน รวมทั้งระบบจะบรรทุกคนได้ 812 คน

การปล่อยลงสู่น้ำทำได้โดยกดปุ่มเพียงเเค่ 1 ปุ่ม 

หลังจากนั้นฝากล่องทางด้านข้างนอกตัวเรือก็จะเปิดออกเเละหย่อนตัว LifeCraft ที่ยังไม่พองลมลงไปพร้อมด้วยช่องทางลง (Chutes) 4 ช่อง สำหรับอพยพคนเข้าสู่เเพ

เมื่อเเพช่วยชีวิตลงถึงผิวน้ำก็จะกางออกด้วยระบบพองลมอัตโนมัติ ทุกๆตัวจะถูกยึดติดไว้ด้วยกัน เเพ 2 ตัวที่อยู่ด้านข้างตัวเรือจะเป็นจุดลงเเรกสำหรับรับผู้โดยสาร

หลังจากนั้นจึงทำการอพยพคนลงสู่เเพชูชีพให้เต็มจากเเพด้านนอกมายังเเพด้านใน

LifeCraft เเต่ละตัวจะมีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าเป็นใบจักรเเบบ Azimuth 360 องศา ติดตั้งอยู่ในเเต่ละมุมเพื่อใช้สำหรับการขับเคลื่อนเเพเเละเลี้ยวได้อย่างอิสระ 360 องศา

ในกรณีที่บรรทุกผู้โดยสารจนเต็ม เจ้าหน้าที่จะทำการปลดสลักที่ยึดเเพเเต่ละลำออกเเละขับเคลื่อนตัวเเพออกจากบริเวณเรือใหญ่ที่กำลังจะจม

อีกระบบที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือระบบอัจฉริยะ  “intelligent monitoring system” ที่หน้าที่เก็บข้อมูลของตัว LifeCraft โดยทุกๆ 24 ชม. จะทำการส่งรายงานไปยังสะพานเดินเรือของเรือที่วิ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง

LifeCraft System ผ่านการทดสอบการใช้งานจริงเเละมีประสิทธิภาพเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดใน SOLAS หลายเท่าตัว 

ในช่วงเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมามีการทดสอบการใช้งานในขณะที่เรือเอียง 25 องศาท่ามกลางสภาพอากาศที่คลื่นสูงประมาณ 5 เมตร 

โดยพบว่าสามารถอพยพคน 450 คนได้ โดยทั้งหมดใช้เวลาเพียงเเค่ 30 นาทีเท่านั้น เเละยังผ่านการทดสอบลอยอยู่ในทะเล 24 ชม. ในสภาพคลื่นลมที่รุนเเรงโดยที่ตัวเเพไม่มีการชำรุด (คลื่นสูง 4.6 เมตร ลมกรรโชก 18 m/s)

ปัจจุบัน LifeCraft ได้รับการรับรองโดย Danish Maritime Authority (DMA) ให้สามารถติดตั้งได้ในเรือทุกประเภททั่วโลกเเล้ว เเละคาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในปี ค.ศ. 2022 หรือไม่เกินปี ค.ศ. 2023

ดูคลิปสาธิตการใช้งานของระบบ LifeCraft ได้ที่นี่

>> https://youtu.be/5c11896sXF4

อ้างอิง