< 1 MIN READ

นี่ก็เข้าเดือนที่ 5 แล้วตั้งแต่เราทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ที่ไม่ได้รับเชิญที่ชื่อว่า ‘โควิด-19’ และนับแต่นั้นมา ชีวิตของพวกเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพื่อนคนดียังพอมีดีอยู่ที่ทำให้เรารักษาความสะอาดส่วนตัวกันมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีอย่างเดียวจริง ๆ แล้วที่เหลือก็…นะ

ที่น่าเห็นใจสุด ๆ ก็เพื่อนชาวเรือเรานี่แหละครับ เพราะมีอยู่จำนวนหนึ่งที่จากบ้านจากครอบครัวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเมื่อปีกลาย (ก่อนเพื่อนตัวดีเกิดเสียอีก) จนวันนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน ยังติดเกาะอยู่บนเรือ และยังรอคอย “ใคร” ทำอะไรสักอย่างอย่างด้วยความหวังเล็ก ๆ

ตามปกติ การทำงานออกเรือแต่ละครั้งจะกินเวลานานแรมเดือน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะมีคนเรือสลับเปลี่ยนขึ้นลงเรือกันราว 100,000 คน/เดือน

แต่ตอนนี้บริษัทเรือหลายแห่งยกเลิกการสลับเปลี่ยนคนไปแบบไม่มีกำหนด และแทบทุกประเทศมีการล็อกดาวน์ ปฏิเสธคนเข้าออก ทำให้มีชาวเรือราว 150,000 คนทำได้แต่นั่งมองดูชายฝั่งจากบนเรือ

คงไม่ต้องเล่าว่าคนที่อยู่บนเรือนั้นเครียด กดดัน เบื่อ เซ็ง กันมากแค่ไหน? หากใครคิดไม่ออก ลองปิดห้องกักตัวเองโดยไม่ก้าวออกจากสัก 1 วันดู (หากเอาให้ซึ้งต้องห้ามเล่นเน็ตด้วยนะ เพราะเชื่อว่าบนเรือบางลำไม่มี)

เมื่อวันแรงงานที่ผ่านมา เวลาเที่ยงตรง เรือทั่วโลกเปิดหวูดสัญญาณพร้อมกันเพื่อเป็นการแสดงการให้กำลังใจกับชาวเรือ ผู้เป็นเสมือนวีรบุรุษผู้ปิดทองหลังพระของวงการการค้าโลก คนบนฝั่งก็ไม่น้อยหน้าร่วมเป่าเครื่องดนตรีกันอย่างพร้อมเพียงในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

เป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ ที่ซาบซึ้งใจเป็นที่สุด

หากว่ากันตามกฎหมายสากล ชาวเรือทุกคนมีสิทธิ์ร้องขอให้ส่งตัวกลับบ้านเกิดได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักแดงเดียว ทีนี้ปัญหาอยู่ที่ว่าใครเป็นคนรับผิดชอบ?

ตาม ‘Maritime Labour Convention 2006’ ซึ่งมีประเทศสมาชิกกว่า 90 ประเทศ ระบุไว้ว่าเป็นความรับผิดชอบของบริษัทเจ้าของเรือก่อนลำดับแรก ลำดับที่สองจึงเป็นประเทศที่เรือชักธง และหากยังไม่ได้อีก ความรับผิดชอบจึงเป็นหน้าที่ของประเทศที่เรือไปเทียบท่าหรือประเทศบ้านเกิดของลูกเรือเอง

ยามปกติ คงว่ากันไปตามนั้นได้โดยไม่มีข้อขัดข้อง แต่กับสถานการณ์ที่ทั่วโลกไม่เคยมีประสบการณ์รับมือมาก่อนแบบนี้ บางทีก็เคลียร์กันยากหน่อย แต่ก็ใช่ว่าเรื่องจากเงียบหายไป

สภาหอการค้าขนส่งทางเรือ (International Chamber of Shipping) และสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (International Transport Federation) ได้ออกประกาศว่าจะร่วมกันกระทำดังนี้:

    1. กำหนดสนามบินเฉพาะกิจและจำนวนจำกัดสำหรับเคลื่อนย้ายและส่งลูกเรือกลับประเทศบ้านเกิด
    2. กำหนดให้ชาวเรือเป็นคนงานสำคัญที่ให้บริการที่จำเป็นในช่วงการระบาดโควิด-19 โดยให้มีการงดเว้นข้อกำหนดที่ใช้กับผู้โดยสารและบุคคลากรที่ไม่มีความจำเป็น
    3. ออกแถลงการณ์พันธสัญญาร่วมกันว่าจะคงให้ซัพพลายเชนมีความราบรื่นต่อไปโดยวางมาตรการเร่งด่วนสำหรับประเด็นนี้

 

คงต้องรอดูผลงานของทั้ง 2 องค์กรว่าจะช่วยเหลือได้มากน้อยเพียงใดต่อไป

ยังพอมีเรื่องดี ๆ อยู่บ้างที่หลายประเทศไม่ได้สนว่าความรับผิดชอบของใครมาก่อนหลัง อย่างเช่นประเทศฟิลิปปินส์ที่เลือกใช้วิธีการละมุนละม่อมและให้ความช่วยเหลือโดยจัดเรือและไฟลท์บินเช่าเหมาเพื่อส่งชาวเรือให้ได้กลับบ้าน

อ้างอิง

  • https://www.maritime-executive.com/article/seafarers-governments-need-to-step-up-on-repatriation
  • https://www.maritime-executive.com/editorials/who-is-responsible-for-seafarers-left-stranded-by-the-pandemic
  • https://theconversation.com/thousands-of-seafarers-are-stranded-aboard-ships-with-no-end-to-their-shift-in-sight-137324

Related Article

บทความโดย
Ship Expert Technology

ผู้นำการบริการการสื่อสารเเละนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจเเละอุตสาหกรรมเดินเรือไทย

LEAVE YOUR COMMENTS

Please enable JavaScript in your browser to complete this form.

SHIP EXPERT TECHNOLOGY CO., LTD

223/61 (Room 65) Country complex Building Tower A Sanpawut road, Bangnatai, Bangna, Bangkok 10260 Thailand

Contact Us

sales@shipexpert.net
support@shipexpert.net

Tel : +622-1054646

ABOUT US

OUR VISION
WHY THRUST US

MARITIME COMMUNICATION

VSAT
VOIP
MARINE CCTV

MARITIME SOLUTION

ERP SHIP EXPERT ENTERPRISE
MARITIME AI/BI
SHIP STABILITY SOFTWARE

Ship Expert Technology ©All Rights Reserved 2020