ประมงเกาหลีและญี่ปุ่นถึงบางอ้อ ก็ว่าอยู่ทำไมปลาหมึกมันหายไป

ที่แท้ก็…

ปลาหมึกบินแปซิฟิก (Pacific flying squid) คืออาหารยอดนิยมสำหรับคนในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในแถบนี้ แต่ช่วงตลอดมากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ชาวประมงจับปลาหมึกบินได้น้อยลงเรื่อย ๆ รายงานตั้งแต่ปี 2003 พบว่าจำนวนการจับในน่านน้ำเกาหลีใต้และญี่ปุ่นลดลง 80% และ 82% ตามลำดับ

หลายฝ่ายได้พยายามสืบหาสาเหตุมา โดยส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่การทำประมงมากเกินไป จนเมื่อไม่นานมานี้เองที่เทคโยโลยีช่วยให้ทราบถึงการคงอยู่ของ ‘กองเรือเงา (dark fleet)’

องค์กร Global Fishing Watch รายงานว่า พบเรือประมงจีนจำนวนราว 900 ลำเข้าไปจับสัตว์น้ำในน่านน้ำประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งจำนวนนี้คิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนเรือประมงน้ำลึกทั้งหมดของจีนเลยทีเดียว

ตัวเลขการตรวจพบครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และอเมริกา โดยใช้ข้อมูลจากเทคโนโลยีดาวเทียมในการตรวจจับสัญญาณจากเรือและถ่ายภาพเรือ

ที่ผ่านมาไม่เคยมีการร่วมมือกันมาก่อน การรวบรวมข้อมูลจึงทำได้ยาก และที่สำคัญกองเรือเงาก็ร้ายใช่เล่น เพราะตอนออกจากท่าเรือในจีนยังส่งสัญญาณตำแหน่งอยู่ แต่พอถึงน่านน้ำเกาหลีเหนือกลับหยุดส่งสัญญาณไปซะงั้น แต่พอมีการจับมือกันของชาติทั้งหมดดังกล่าว จึงได้ภาพถ่ายยืนยันชัดเจนทันที

Global Fishing Watch เชื่อว่าเรือเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็น ‘เรือ 3 ไม่’ ซึ่งก็คือ ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการชักธง และไม่มีใบอนุญาต โดยเดินเรือกันโดยที่ทางการจีนไม่ได้อนุญาต

การเข้าไปจับสัตว์น้ำในน่านน้ำเกาหลีเหนือยังเป็นการละเมิดการแซงก์ชัน (sanction) ที่องค์การสหประชาชาติมีต่อเกาหลีเหนืออีกต่างหาก แถมยังพบว่าเรือเหล่านี้อาจจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับรัฐบาลกรุงเปียงยางอีกด้วย

การค้นพบนี้ตอบคำถามที่ว่าทำไมปลาหมึกบินแปซิฟิกถึงได้ลดจำนวนลงอย่างน่าตกใจ ทั้งที่การแซงก์ชันควรทำให้จำนวนปลาหมึกมันฟื้นฟูกลับมา และยังตอบคำถามอีกว่าทำไมถึงพบซากเรือของเกาหลีเหนือมากมายตามชายหาดของญี่ปุ่นและรัสเซีย

เรือประมงของเกาหลีเหนือไม่ได้มีเทคโนโลยีทันสมัยเหมือนเรือทั่วไป พอมีเรือจากจีนเข้ามาจับปลาและลากอวนกันอย่างหนักหน่วง ชาวประมงท้องถิ่นจึงต้องพากันออกเรือไปไกลถึงรัสเซีย ซึ่งภาพจากดาวเทียมได้ยืนยันสิ่งนี้ว่าเกิดขึ้นจริง สุดท้ายเรือจึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

ข้อมูลจากความร่วมมือหนนี้จะนำไปสู่การจัดการและความโปร่งใสในท้องทะเลมากยิ่งขึ้น

อ้างอิง