บทวิเคราะห์จาก BIMCO วงการเรือจะหมู่หรือจ่าล้วนพึ่งพี่จีน

สมาคม BIMCO (Baltic and International Maritime Council) เคยประกาศเตือนถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในจีนนั้นอยู่ในระดับวิกฤตแล้ว และสถานการณ์จะย่ำแย่ลงไปอีกหากไม่มีมาตรการควบคุมที่ดีเพียงในระยะยาว

ผลกระทบชัด ๆ เห็นได้แล้วจากการที่ Alphaliner ประมาณการณ์ว่ามีการยกเลิกการส่งสินค้า 1.7 ล้าน TEU ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ไหนจะรายงานยิบย่อยที่ระบุว่าเรือที่ยังคงแล่นออกจากท่านั้นไม่ได้บรรทุกสินค้าเต็มลำ ตัวแทนเรือและบริษัทขนส่งรายงานว่าจำนวนรถบรรทุกไม่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญ ประกอบกับ BIMCO เน้นย้ำอีกว่าในบางเมือง พบว่าคนขับรถบรรทุกจำนวนกว่า 2 ใน 3 ไม่ได้มาทำงาน

นายปีเตอร์ แซนด์ (Peter Sand) หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์จาก BIMCO คาดการณ์สถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้สามทางคือ อย่างแรกจีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แล้วทุกสิ่งก็กลับมาเป็นเช่นเดิมในเดือนมีนาคม (ซึ่งนี่ก็มีนาแล้ว เชื้อไปไกลยันยุโรป) อย่างที่สอง สถานการณ์กลับเป็นปกติในเดือนเมษายน (ยังลุ้นกันต่อ ด้วยความหวังริบหรี่) และอย่างที่สาม ซึ่งเลวร้ายสุด ๆ คือไวรัสแพร่ยาว ๆ ไปแบบเดาอะไรไม่ได้เลย

นายปีเตอร์แสดงความเห็นต่ออีกว่า ตามสถานการณ์ที่ 1 การกระจายสินค้าคงเกิดการติดขัดบ้าง (พูดถึงในตัวสินค้าอย่างเดียวนะ) และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดกับบริษัทขนส่งยังอยู่ในระดับที่พอควบคุมแก้ไขได้ ตามสถานการณ์ที่ 2 จีนจะปิดประเทศยาวยันเดือนเมษายน แรงงานที่ขาดหายไปจะทำให้ทั้งการผลิต การขนส่งในพื้นที่ห่างไกล และการดำเนินงานของท่าเรือเกิดการติดขัด และเนื่องด้วยจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่น้อยลง อันเกิดจากการหยุดการผลิตในระดับภูมิภาค ผลกระทบอาจลุกลามจนทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าเพื่อการผลิตและจำหน่ายในระดับโลก

ด้านเรือขนส่งเองก็ได้รับผลกระทบ ลองดูว่าเพียงแค่ในช่วงเวลาที่อเมริกายกเลิกบทลงโทษเรือ Cosco Dalian และผลกระทบของไวรัสโคโรน่า อัตราการขนส่งได้ลดฮวบลงจากมากกว่า $100,000 ต่อวันในเดือนธันวาคมเหลือเพียง $18,000 ต่อวัน คาดว่ารายได้ในช่วงดือนกุมภาพันธ์จนถึงมีนาคมจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโรคเป็นสำคัญ และจะไม่ได้คืนกลับมาทันทีหลังจากนั้น

การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นี้สื่อให้เห็นว่าวงการขนส่งจะดีหรือร้ายนั้นต้องพึ่งพิงกับเศรษฐกิจของจีนมากยิ่งขึ้นไปอีกในสมัยนี้ หากว่าแรงงานจีนส่วนใหญ่ถูกกักกัน ภาคการขนส่งคงซบเซากันไปยาว ๆ

อ้างอิง