< 1 MIN READ

จะเกิดอะไรขึ้นถ้า “เเอมโมเนีย” กลายมาเป็น “เชื้อเพลิง” หลักให้เเก่ “เรือเดินสมุทร”
พบกับ พลังงานงานทางเลือกอีกทางที่ไม่ควรมองข้าม!!
พบกับทางเลือกใหม่เเห่งพลังงานสะอาดเมื่อ “แอมโมเนีย” หรือชื่อทางเคมี “NH3” สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงทางทะเลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพื่อลดการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายในอุตสาหกรรมการเดินเรือตามผลการวิจัยใหม่โดยบริษัท “C-Job Naval Architects” ในประเทศเนเธอร์แลนด์
.
การผลิตแอมโมเนีย ทำได้โดยสร้างกระบวนการการจับตัวกันของไนโตรเจนกับไฮโดรเจน ไนโตรเจนนั้นสามารถสร้างมาจากวิธีการแยกออกจากอากาศที่มีอยู่ หลังจากอากาศทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจาก 78% ของไนโตรเจน ไฮโดรเจนถูกผลิตผ่านกระบวนการอิเล็กทรอไลต์ของน้ำ โดยน้ำและไนโตรเจนเป็นสารที่มีอยู่มากมายซึ่งทำให้แอมโมเนียสามารถเป็นเชื้อเพลิงที่สร้างความยั่งยืนในอนาคตได้
.
การวิจัยใช้การออกแบบด้วยแนวความคิดใหม่ โดยให้ผู้ให้บริการแอมโมเนียเติมเชื้อเพลิงด้วยสินค้าของตัวเอง เพื่อศึกษาแนวคิดของการใช้แอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิงทางทะเล เพื่อการนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญในการขนส่ง
.
เครื่องยนต์สันดาปภายในสามารถใช้เผาไหม้แอมโมเนีย กระบวนการนี้ต้องใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อแตกแอมโมเนียส่วนเล็ก ๆ ให้เป็นไนโตรเจนและไฮโดรเจน ไฮโดรเจนบริสุทธิ์นั้นสามารถติดไฟและเผาไหม้ด้วยแอมโมเนีย โดยเทคโนโลยีนี้มีอยู่เเล้วจากรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแอมโมเนียรุ่นแรกที่มีอายุย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1935 ซึ่งแค่ต้องการนำไปใช้กับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่าด้วยเทคนิคที่ทันสมัยกว่าเดิม
.
ในทางปฏิบัติของการใช้แอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิงหลัก สามารถทำได้โดยการใช้ความรู้และประสบการณ์ของคนทำงานในภาคอุตสาหกรรมนี้มาช่วยพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในการปฏิบัติงานทางทะเล
.
เพราะจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากแอมโมเนียซึ่งเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ มักจะเกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมห้องเย็น โรงน้ำแข็ง โรงงานทำไอศครีม โดยสาเหตุหลักเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ เช่น วาล์วรั่ว ท่อขนส่งแตก หรือประเก็นรั่ว เป็นต้น ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีอุบัติเหตุจากแอมโมเนียเกิดขึ้นหลายครั้ง จนองค์กรปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) ต้องจัดทำมาตรฐานข้อมูลอุบัติภัยจากการรั่วไหลของแอมโมเนีย (Accidental Release Information Program : ARIP)
.
แอมโมเนีย (ammonia : NH3) เป็นสารเคมีพื้นฐานที่มีประโยชน์อย่างมากทั้งต่อภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการใช้แอมโมเนียกันอย่างแพร่หลาย แต่ในขณะเดียวกันแอมโมเนียก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าผุ้ใช้ขาด ความระมัดระวังและอาจเกิดอุบัติเหตุในการจัดเก็บ การใช้งาน และการขนส่ง
 
ปัจจุบันเเอมโมเนียใช้มากในอุตสาหกรรมปุ๋ย ในแง่ของการจัดเก็บ แอมโมเนียสามารถเก็บไว้ในสถานะของเหลวได้ที่อุณหภูมิ -33.4 ° C (ที่ความดัน 1 บาร์) ซึ่งอุตสาหกรรมนี้มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานหลายสิบปีเเล้วในการใช้เรือบรรทุกขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บแอมโมเนียได้ 60,000 ตัน นอกจากนี้ยังมีการใช้เรือบรรทุกขนาดใหญ่ในการขนส่งแอมโมเนียทั่วโลกมากถึง 80,000 ตันข้ามมหาสมุทร
.
โดยข้อเสียของแอมโมเนียในการเป็นเชื้อเพลิงให้กับเรือคือเมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงปกติเเล้วแอมโมเนียมีน้ำหนักมากกว่าสองเท่าและต้องใช้ปริมาณมากกว่าสามเท่าเพื่อให้มีพลังงานเท่ากัน ปัญหาดังกล่าวจะต้องนำมาพิจารณาสำหรับเรือที่ใช้แอมโมเนีย นอกจากนี้แอมโมเนียยังเป็นสารพิษ ความจริงที่จะต้องได้รับการแก้ไขเมื่อมีการพัฒนาการออกแบบเรือที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
.
อ้างอิง
สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยเเละอนามัยในการทำงาน

Related Article

บทความโดย
Ship Expert Technology

ผู้นำการบริการการสื่อสารเเละนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจเเละอุตสาหกรรมเดินเรือไทย

LEAVE YOUR COMMENTS

Please enable JavaScript in your browser to complete this form.

SHIP EXPERT TECHNOLOGY CO., LTD

223/61 (Room 65) Country complex Building Tower A Sanpawut road, Bangnatai, Bangna, Bangkok 10260 Thailand

Contact Us

sales@shipexpert.net
support@shipexpert.net

Tel : +622-1054646

ABOUT US

OUR VISION
WHY THRUST US

MARITIME COMMUNICATION

VSAT
VOIP
MARINE CCTV

MARITIME SOLUTION

ERP SHIP EXPERT ENTERPRISE
MARITIME AI/BI
SHIP STABILITY SOFTWARE

Ship Expert Technology ©All Rights Reserved 2020