ช่องแคบมะละกา – จุดยุทธศาสตร์โลก – หนึ่งในเส้นทางเดินเรือสำคัญที่ใช้ขนส่งสินค้าของเอเชียและของโลกมายาวนาน รู้หรือไม่…ที่นี่เคยเกิดโศกนาฏกรรมเร้นลับที่กลายมาเป็นหัวข้อถกเถียงกันในหมู่ชาวเรือ เรื่องของปริศนาเรือเดอะเอสเอสอูรังเมดาน

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1940 สัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือถูกส่งจากเรือส่งสินค้าสัญชาติเนเธอแลนด์ เดอะเอสเอสอูรังเมดาน พร้อมกับรหัสที่ถอดความได้ว่า

‘…เจ้าหน้าที่ทั้งหมด และกัปตันเรือเสียชีวิต นอนตายในห้องแผนที่และสะพานเรือ ลูกเรือทุกคนอาจเสียชีวิตแล้ว…’ ปิดท้ายด้วย ‘ผมตาย’

เรือสัญชาติอเมริกันที่อยู่ห่างไปประมาณ 19 ชั่วโมงรีบหันหัวเรือเพื่อเข้าช่วยเหลือหลังได้รับสัญญาณ โดยไม่คิดเลยว่าต้องเจอกับฉากน่าสยดสยอง บนเรือเกลื่อนไปด้วยร่างไร้วิญญาณของเหล่าลูกเรือที่มีสีหน้าบิดเบี้ยวแสดงความหวาดกลัวสุดขีด ตัวแข็งทื่อ มือชูค้างเหมือนพยายามปัดป้องบางอย่าง ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบสุนัขบนเรือตายตัวแข็งในท่าทางตื่นกลัว แยกเขี้ยวราวกับกำลังขู่ใส่บางสิ่งที่ไม่สามารถบอกได้

ทีมช่วยเหลือเร่งสำรวจเรือเพื่อหาผู้รอดชีวิตและสืบหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมสยองขวัญนี้ แต่กลับยิ่งพบปริศนามากขึ้น ศพทั้งหมดไม่มีบาดแผลหรือรอยเลือดแม้แต่หยดเดียว มีเพียงสีหน้าบิดเบี้ยว ราวกับว่าบางสิ่งบางอย่างก่อให้เกิดความกลัวจนช็อกตายไปทั้งแบบนั้น และยังสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นยะเยือกทั้ง ๆ ที่เป็นวันในหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา

ท้ายที่สุด ทีมช่วยเหลือตัดสินใจลากเรือเข้าฝั่งเพื่อสืบสวนอย่างละเอียด แต่เหตุการณ์ไม่จบเพียงเท่านั้น จู่ ๆ เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นจากห้องเก็บสินค้าหนึ่ง ทีมช่วยเหลือต้องรีบตัดสายโยงเรือและหนีตายกันอลหม่าน จากนั้นไฟได้ลุกโหมท่วมเรือ ตามด้วยการระเบิดอย่างรุนแรงจนตัวเรือลอยขึ้นเหนือน้ำและจมลงใต้ท้องทะเลอย่างไร้ร่องรอย เป็นจุดจบของเดอะเอสเอสอูรังเมดาน

เกิดการตั้งสมมติฐานมากมายเกี่ยวกับการตายของลูกเรือเดอะเอสเอสอูรังเมดาน บ้างว่าเกิดจากการถูกโจมตีของโจรสลัด บ้างก็เชื่อว่าเป็นอาถรรพ์สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า บางคนเล่าว่าเป็นการกระทำของมนุษย์ต่างดาว อีกคนกลับบอกเป็นเพราะการรั่วซึมของอาวุธชีวภาพผิดกฎหมายที่ขนมาเต็มท้องเรือ หรือแม้กระทั่งว่าเกิดจากสิ่งลี้ลับ แต่…คำตอบของปริศนาได้ถูกฝังกลบใต้ทะเลไปซะแล้ว

ยิ่งพอได้ค้นข้อมูลของเรือลำนี้ต่อไป ก็เจอข้อมูลที่ทั้งสนุกและน่าสนใจมากมาย ซึ่งทุกคนพยายามงัดเอาหลักฐานมาเพื่อรองรับสมมติฐานของตัวเอง

มีการเปิดเผยจดหมายลับระดับ top secret ของ CIA ในปี 2003 ซึ่งกล่าวว่าเดอะเอสเอสอูรังเมดานคือ ‘กุญแจไขความลับ’ เบื้องหลังการสูญหายของเครื่องบินหลายลำ และปริศนาอื่นของท้องทะเลที่ยังแก้ไม่ได้

ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์หลายประเทศได้รายงานเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่เป็นช่วงเวลาที่ห่างกันหลายปี ข้อมูลคลาดเคลื่อน ระบุตำแหน่งเรือไม่ตรงกัน

ที่น่าแปลกอีกเรื่องคือ ไม่พบข้อมูลการจดทะเบียนและเอกสารต่าง ๆ ที่แสดงการมีอยู่ของเรือเดอะเอสเอสอูรังเมดานเลย อาจเพราะเรือลำนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่สมควรจะมีตัวตนอยู่ก็เป็นได้

แต่สิ่งหนึ่งเลยที่แอดมั่นใจคือ เรือเดอะเอสเอสอูรังเมดานเป็นหนึ่งในตำนานแห่งท้องทะเลที่จุดประกายจินตนาการเรื่องลี้ลับและความบันเทิงให้กับเราชาวเรืออย่างไม่ต้องสงสัย

อ้างอิง