งานวิจัยยังบอกอีกว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือ การแสดงความรับผิดชอบ เราไม่ต้องไม่มีข้ออ้างหรือหาเหตุผลมาอธิบายอะไรให้วุ่นวาย แค่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

3. หาต้นตอว่าอะไรทำให้เราปรี๊ด

นี่เป็นขั้นตอนของการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผิดพลาดของเรา

การชี้ชัดให้ได้ว่า “อะไร” ที่ทำให้เราหลุด ก็เพื่อให้เราหาวิธีป้องกันและรับมือกับมันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากมันจะเกิดขึ้นกับเราอีกครั้ง

4. ทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ

หากต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของคุณในสายตาคนอื่น คุณต้องทำให้คนอื่นเห็นอย่างสม่ำเสมอ โชคไม่ดีนักที่คนเรามักจะตัดสินผู้อื่นจากความเชื่อที่มีต่อคน ๆ นั้น โดยจะเทียบกับสิ่งที่ทำแตกต่างไปจากยามปกติ ยกตัวอย่างเช่น หากผู้คนเชื่อว่าคุณเป็นพวกหัวร้อน พวกเขามักจะรับรู้เรื่องที่คุณวีนใส่เพื่อนร่วมงานถึงจะแค่เพียงหนึ่งครั้งในตลอดสัปดาห์ที่คุณอารมณ์ดีและน่าคบหาก็ตาม

5. ใส่ใจความสัมพันธ์

กับคนรอบตัวที่เขารู้จักคุณดีและคุณก็รู้จักเขาดี บุคคลเหล่านี้มีแนวโน้มให้อภัยกับความผิดพลาดเป็นครั้งคราวของคุณได้ง่ายกว่า ดังนั้น หากคุณต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ขึ้นมา คุณควรจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัวไว้ด้วย เป้าหมายในขั้นตอนนี้ไม่ใช่เปลี่ยน “การรับรู้” ของคนอื่น แต่เป็นการเปลี่ยนที่ “ตัวตน” ของคุณเอง

6. จงอดทน

แม้ตัวคุณเองใช้เวลาไม่นานในการลืมสิ่งที่ทำลงไป แต่กับคนอื่นอาจไม่เป็นเช่นนั้น มันอาจจะใช้เวลานานสักหน่อยเพื่อให้คนอื่นรู้สึกได้ว่าคุณนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

สุดท้าย อยากให้ลองมองขั้นตอนเหล่านี้เป็นความท้าทายส่วนตัว การปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จงอาศัยความสม่ำเสมอ ความมุ่งมั่น และความอดทน แล้วความพยายามจองคุณจะประสบผลสำเร็จแน่นอน!

เรียบเรียงจาก

https://hbr.org/2019/07/you-just-lost-your-temper-at-work-now-what