ล่าสุดมีบริษัทสังเวยคำทำนายนี้อีกหนึ่งราย

นั่นคือ บริษัท Diamond Offshore Drilling ที่ยื่นขอล้มละลาย ซึ่งตามข้อมูลของ Bankruptcy Data นี่นับเป็นบริษัทน้ำมันของสหรัฐฯ รายที่ 5 ที่ยื่นขอล้มละลายในช่วง 30 วันที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อวันที่ 01/04/2020 บริษัท Whiting Petroleum ยื่นขอล้มลายนำไปก่อนแล้ว

บริษัท Diamond Offshore Drilling มีหนี้สินก้อนโตราว $2,600 ล้านและยังมีพนักงานอีก 2,500 คนที่เสี่ยงตกงาน

ผลพวงเกิดจากเมื่อวันจันทร์ที่ 20/04/2020 มีการซื้อขายน้ำมันดิบที่ราคา $-40.32/บาร์เรล ไม่ได้นิ้วลั่นเคาะ ‘-’ หรอก เกิดการซื้อขายกันที่ราคาติดลบจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก ไม่มีใครคิดว่ามันจะมาถึงจุดนี้ได้ ทั้งนี้เพราะแทบทุกประเทศล็อกดาวน์จากการระบาดของโควิด-19 ความต้องการใช้น้ำมันลดลงฮวบฮาบ การผลิตที่ยังมากเกิน สงครามราคาน้ำมัน และสต็อกที่เต็มจนล้น

แล้วราคาน้ำมันดิบควรอยู่ที่เท่าไร?

จากงานวิจัยของ Dallas Federal Energy Survey บอกว่าน้ำมันควรมีราคาเฉลี่ย $48-54/บาร์เรลถึงจะคุ้มทุนการผลิตของบริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ แต่ถ้าดูเฉลี่ยของทุกบริษัททั่วโลกแล้วราคาไม่ควรต่ำกว่า $30/บาร์เรล

Motley Fool ได้ทำแบบสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานหลายคนเพื่อดูว่าบริษัทใดบ้างที่มีแนวโน้มจะล้มละลายเป็นรายต่อไป พบว่านอกจากบริษัท Diamond Offshore Drilling นี้แล้ว ยังมีบริษัทอีก 3 แห่ง ได้แก่ Chesapeake Energy, Occidental Petroleum, และ Callon Petroleum ที่เข้าคิวอยู่

ไม่ใช่แค่บริษัทในสหรัฐฯ ที่ล้มเท่านั้น บริษัท Hin Leong ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของสิงคโปร์ก็โดนผลพวงจากราคาน้ำมันติดลบนี้เช่นกัน โดยขาดทุนยับเยินไป $800 ล้าน และได้ยื่นขอล้มละลายเพื่อพิทักษ์สินทรัพย์ จากการค้างชำระหนี้ธนาคารมากกว่า 20 แห่ง มูลค่ารวม $3,800 ล้าน

บริษัทยักษ์ใหญ่หาทางเอาตัวรอดในช่วงนี้ด้วยการตัดงบประมาณและรายจ่ายบางอย่างออกไป ไม่ต้องพูดถึงโปรเจกต์ใหม่ ๆ ที่วางแผนจะทำไว้ล่วงหน้า เพระาตอนนี้ทั้ง Exxon Mobil, Chevron, Shell และ BP ต่างพากันกันดองแผนงานไว้ไม่มีกำหนด

เจอปัญหาคอมโบชุดใหญ่แบบนี้ ตั้งตัวกันไม่ทันจริง ๆ แข็งแกร่งแค่ไหนก็ต้องมีสะเทือนกันบ้าง และกว่าจะรอให้ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติก็ไม่รู้ว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตอยู่เท่าไร หากว่าทุกสิ่งมันคืนสู่ ‘ปกติ’ จริงอะนะ

อ้างอิง