เป้าหมายลดคาร์บอนลง 50% ภายในปี 2050 ใกล้เข้ามาทุกที คงเพราะเป็นการลงนามในสัญญาร่วมกัน และเป็นเทรนด์ของโลกที่คนทั่วไปจับตามองด้วย องค์กรหลายแห่งจึงดูมุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง และต้องทำให้ได้ ซึ่งนอกจากจะป้องกันการแอนตี้จากคนทั่วไปแล้ว ยังเหมือนเป็นการโชว์พราวด์ (proud) ด้วยว่า ข้าเจ๋งที่ทำได้และข้าเหนือที่มีเทคโนโลยีรักษ์โลก แต่ครั้นจะทำคนเดียวก็เปรี้ยวไปหน่อย ดังนั้นเหล่าองค์กรชั้นนำจากยุโรปมารวมตัวกันภายใต้โปรเจกต์ ‘FASTWATER’

เริ่มกันที่ชื่อที่แม้จะดูยาวมาก แต่ก็สามารถสรุปสิ่งที่โปรเจกต์นี้ต้องการทำได้ดี ซึ่งชื่อเต็มคือ ‘FAST Track to Clean and Carbon-Neutral WATERborne Transport through Gradual Introduction of Methanol Fuel’ แปลไทยได้ว่า ทางด่วนเพื่อสร้างการคมนาคมทางน้ำที่สะอาดและไร้คาร์บอนโดยผ่านการแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงเมทานอลอย่างช้า ๆ

หัวใจสำคัญของโปรเจกต์คือ ‘เมทานอล’ ซึ่งเป็นพลังงานเชื้อเพลิงสะอาดที่มีกักเก็บอยู่มากมายตามท่าเรือทุกแห่งทั่วโลกอยู่แล้ว และเนื่องจากตัวมันเองอยู่ในสถานะของเหลว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะดัดแปลงและวางเครื่องยนต์ใหม่บนเรือเพื่อให้เรือใช้เมทานอลเป็นเชื้อเพลิงได้

นอกจากนึ้ เมทานอลยังมีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล เพราะหากเกิดอุบัติเหตุรั่วไหลลงทะเลสามารถผสมรวมกับน้ำและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ อีกทั้งราคายังแข่งขันกับเชื้อเพลิงชนิดอื่นได้อย่างคุ้มค่า

หากเครื่องยนต์เผาไหม้ด้วยเมทานอล (เทียบกับการเผาไหม้ด้วยเชื้อเพลิงชนิดอื่น) จะสามารถลดการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ออกไซด์ 99% ลดก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ 60% และลดเขม่าควันขนาดเล็ก 95%

เดิมที เหล่าสมาชิกทั้ง 15 องค์กรในโปรเจกต์ก็ได้ทำโปรเจกต์เรื่องเมทานอลกันของใครของมันอยู่แล้ว แต่คราวนี้จะมาร่วมกันสร้างให้เครื่องยนต์ที่เผาไหม้ด้วยเมทานอลความเร็วสูงสำหรับการขนส่งทางเรือเป็นที่คุ้มค่าต่อการลงทุนของเจ้าของเรือ ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ได้วางแผนสาธิตความเป็นไปได้ในการใช้งานในเรือ 3 ชนิด ได้แก่ เรือลากจูง เรือนำร่อง และเรือยามชายฝั่ง

และยังมีแผนพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่ใช้เมทานอลสำหรับเรือในแม่น้ำ และชุดดัดแปลงเครื่องยนต์ดีเซลให้เป็นเมทานอลสำหรับเครื่องขนาด 200kW – 4MW

พร้อมกันนั้น จะจัดการอบรมให้สำหรับลูกเรือและเจ้าหน้าที่ท่าเรือ ตั้งข้อกำหนดสำหรับการใช้เมทานอลเป็นเชื้อเพลิง รวมไปถึงเผยแพร่ความรู้และเรื่องจำเป็นอื่น ๆ อย่างรอบด้าน

โปรเจกต์ FASTWATER ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก European’s Horizon 2020 research and innovation programme ถือว่าพร้อมเดินหน้าเต็มตัว เพราะเท่าที่ผ่านมา ทุกองค์กรเพียงแค่ประสบปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการนำเมทานอลมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการคมนาคมทางน้ำเท่านั้น

อ้างอิง